‘พระพยอม’ ขอบคุณ ‘แพรรี่’ ปกป้อง ลั่นไม่เคยอมเงินวัด ปลุกเสกของขาย
โหนกระแส‘พระพยอม’ ขอบคุณ ‘แพรรี่’ ปกป้อง ลั่นไม่เคยอมเงินวัด ปลุกเสกของขาย!
วันที่ 28 ก.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง ไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือแพรรี่ ได้ออกมาปกป้อง พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กรณีแสดงความคิดเห็นทางการเมือง
แพรรี่ ฟาดแรง พระหากินกับเดรัจฉานวิชา มาตำหนิพระปฎิบัติดี จะขำหรือร้องไห้ดี
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามถึงกรณีดังกล่าว พระพยอม เปิดเผยว่า ต้องขอบใจแพรรี่ในฐานะที่รู้จักกันมาก่อน มีอะไรก็เซฟกัน ตอนนี้อาตมากระสุนลง หลายเรื่องหลายอย่าง มีการเล่นลามปามถึงขั้นตัดต่อหัวอาตมาไปสวมใส่เสื้อสีส้ม ทำให้คนโทรเข้ามาหา และเขียนหนังสือมาที่วัดเพื่อให้กำลังใจ
พระพยอม กล่าวต่อว่า อาตมาอาจไม่ได้มีดีทั้งหมด จะให้ดีทั้งหมด หรือถูกทั้งหมดมันหายาก มันต้องมีผิดบ้าง แต่ควรขึ้นตาชั่งบวกลบคูณหารว่ายังเหลือข้อดีไหม หาว่าพระพยอมมีศีล 5 ยังรักษาไม่ได้ อย่างนี้เรียกว่า ติดลบหมดทุกเรื่อง
พระพยอม กล่าวอีกว่า ถ้ารักษาศีล 5 ไม่ได้ถือว่าหมดความเป็นมนุษย์ เพราะมนุษย์มีศีลธรรมคือศีล 5 อย่าว่าแต่เป็นพระเลย มาไล่ดูไหม เรื่องศีล 5 ถามว่าพระพยอมฆ่าใคร พระพยอมไปขโมยทรัพย์ใคร พระพยอมไปมีกิ๊กกับใคร พระพยอมไปพูดปดมดเท็จเพ้อเจ้อกับใคร พระพยอมไปกินเหล้าเมายาที่ไหน อยากให้คนหลายล้านคนในประเทศไทยลองมาลงโหวตกันระหว่างคนที่บอกว่าศีล 5 ยังเหลือ กับคนที่บอกว่าศีล 5 ไม่เหลือ
“ส่วนกรณีหลวงพี่น้ำฝนไม่ได้มีอะไรส่วนตัวกัน ไม่ได้ทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อน เรื่องนี้ควร-ไม่ควร ถูก-ผิดแล้วแต่คนจะตัดสิน ถ้ายังไงให้บวกลบคูณหารให้ดี”
พระพยอม กล่าวต่อว่า ถามว่าตอนนี้มีความกังวล หรือเครียดไหม ก็มีแต่เรื่องงานที่กำลังจะเดินไปข้างหน้า เช่น ถ้าคนบางคนบอกว่าไม่อยากทำบุญกับพระพยอมแล้ว ไม่อยากบิณฑบาตหมู่บ้านนี้แล้ว คนอีก 500-600 ชีวิต หมาแมวที่ฝากไว้กับทางวัด และถ้าคนไม่ช่วยเหลือวัด ไม่ทำบุญที่วัด สิ่งที่ทำอยู่คงต้องติดค้างและต้องชะงักอยู่อย่างนั้น ถ้าคนแยกแยะได้ บอกว่าไม่ต้องกลัว สู้ต่อไป จะเป็นกำลังใจให้ก็ขอบใจฝ่ายนี้
“ขอความกรุณาฝ่ายที่ถล่มทางวัดให้นึกถึงหมา แมว เด็ก คนชราที่มาอาศัยอยู่ในวัด ถ้าต้องอดอยากเพราะความเข้าใจผิด เพราะความให้ร้ายที่ผิดๆ ให้ร้ายว่าพระพยอมเอาเงินเก็บหมด ขายอะไรเอารายได้ไปหมด หาว่าพระพยอมไปปลุกเสกของขาย ซึ่งทางวัดไม่เคยทำมาก่อน เมื่อคนให้ร้ายป้ายสีไปมากๆ ถ้าคนไม่เชื่อมั่นก็จะถูกหลอก ควรใช้หลักคณิตศาสตร์บวกลบคูณหารว่าเหลือข้อดีไหม” พระพยอมกล่าว