“อาจารย์ต๋อง” ขอโทษชาวลาว ยุติบทบาทดราม่าขุดเจอพระพุทธรูป
จากกรณีการขุดพบ พระพุทธรูปที่สปป.ลาว พร้อมกับวัตถุุโบราณหลายชิ้น ซึ่งยังคงสภาพสมบูรณ์งดงาม ภายในหาดทรายกลางแม่น้ำโขง ฝั่งเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งคาดว่าเป็นพระพุทธรูปโบราณมีอายุมากกว่า 500 ปี
ก่อนที่ต่อมาได้มีนักวิชาการ นายพยุงศักดิ์ อัครเกื้อกูล หรือ อาจารย์ต๋อง ฉายาครูบาทอง ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหะวิทยา ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ดังกล่าว โดยวิเคราะห์ว่า โลหะจมดินจมน้ำไม่ถึง 100 ปี มันจะยุ่ย ผุ กร่อน ทะลุจนพรุน ไม่มีเหลือเป็นองค์พระพุทธรูปสมบูรณ์แบบอย่างที่ขุดเจอนั่นหรอก ฟันธงพระพุทธรูปดังกล่าวอายุประมาณ 50 ปี มีอายุไม่ถึง 500 ปี เพิ่งทำการหล่อมาได้ไม่ถึง 2-3 เดือน แล้วมีคนมือดีเอามาฝังสดๆใหม่ๆ พร้อมท้าพิสูจน์ ซึ่งเรื่องสร้างความไม่พอใจให้กับชาวเน็ตลาวเป็นอย่างมาก
ขณะที่ทางด้าน ดร.ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว แนะเรื่องนี้คนไทยบางคนควรสงบปากสงบคำไว้บ้าง หวั่นมีปัญหาเรื่องสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยระบุว่า “อย่าหาทำ ผมว่าเรื่องนี้คนไทยบางคนควรสงบปากสงบคำไว้บ้างนะ ยิ่งการใช้ภาษาที่ท้าทายแถมหยาบคายยิ่งไม่สมควรทำอย่างยิ่ง ยิ่งอ่านเนื้อหาการให้สัมภาษณ์ ผมนี่รู้สึกอายแทนคนไทย และอยากขอโทษเพื่อนคนลาวที่มีคนไทยแบบนี้”
ล่าสุดวันที่ 19 พ.ค. 2567 อาจารย์ต๋อง พยุงศักดิ์ ได้ออกมาโพสต์ขอยุติบทบาทในเรื่องการขุดค้นพบพระพุทธรูปในครั้งนี้ ผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า
“เรียน สื่อทุกสำนัก ก่อนอื่น ผมขอขอบคุณสื่อทุกสำนักที่ติดต่อเข้ามา และเชิญผมไปออกรายการของท่าน บางช่องขอพูดคุยทางโทรศัพท์ เพื่อนำคำพูดของผมไปสื่อสารต่อ ในรายการ
ผมขอใช้ช่องทางตรงนี้ แจ้งสื่อมวลชนทุกท่านว่าไม่ต้องติดต่อมาแล้วนะครับ ผมขอหยุดบทบาทของผมในเรื่องนี้ และที่ผมโพสต์ผ่านๆ มา ผมคิดว่า ข้อมูลมีเยอะเพียงพอแล้วสำหรับการนำไปเสนอข่าวของท่าน อีกประการหนึ่ง หากผมไปออกสื่อ เรื่องนี้ก็จะบานออกไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดจบสิ้น
ผมขอโทษ คนลาว และคนไทย ที่ทำให้ท่านเข้าใจผิด ในการที่ผมโพสต์เตือนให้ท่านระวังตัว จากขบวนการพุทธพานิชย์ที่จ้องจะดูดเงินในกระเป๋าท่านโดยนำเอา “ความเคารพเชื่อถือพระพุทธรูป” มาเป็นเครื่องมือและสินค้า ของลัทธิของเขา ผมลืมไปว่า เงินมันก็เงินของคุณเอง ความเชื่อความงมงายมันก็เป็น เรื่องของใครของมัน ผมไม่ควรไปเกี่ยวข้องไปหวังดีไปห่วงท่านตั้งแต่แรกแล้ว
สรุปก็คือ ผมขอยุติทุกบทบาทในเรื่องการขุดค้นพบพระพุทธรูปในครั้งนี้ครับผม สุดท้ายนี้ ผมก็ขออำนวยอวยพรให้ทุกท่าน จงมีแต่ความสุขความเจริญ แม้แต่กลุ่มคนลาวที่เข้ากร่นดำาผม ก็ขอให้ท่านมีความสุขความเจริญเช่นกัน
ผมไม่โกรธเลย ผมอโหสิกรรมให้หมดทุกคนเลยครับ คำพูดที่ดีและไม่ดีที่เราเคยสาดใส่กัน ก็ขอให้มันสูญสลายไปกับกาลเวลาที่ผ่านมาขอให้มันผ่านไปครับ จงอย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลยครับ สวัดดีครับ อ.ต๋อง”
