News

แฉเส้นเงินส่วยรถบรรทุก หมุนเวียนกว่า 126 ล้าน หลักฐานชัดจ่ายรายเดือน สูงสุดหนึ่งแสนบาท

แฉเส้นเงินส่วยรถบรรทุก หมุนเวียนกว่า 126 ล้าน หลักฐานชัดจ่ายรายเดือน สูงสุดหนึ่งแสนบาท

ตะลึง แก๊งส่วยรถบรรทุกเงินหมุนเวียนกว่า 126 ล้าน มั่นใจหลักฐานชัด หน้าเสื่อโอนตรงเข้าบัญชีส่วนตัว และยังมีรายรายเดือน สูงสุดเดือนละแสน บิ๊กเต่าสั่งขยายผล ลั่นสาวถึงใครเอาหมด

จากกรณี ตำรวจ บก.ปปป. นำกำลังบุกจับหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ “spot check กรมทางหลวง” เก็บส่วยรถบรรทุก” เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตามที่เป็นไปแล้วนั้น

คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 3 ก.ย.2567 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.ธณัชชนม์ เก่งกสิกิจ ผกก.3 บก.ปปป. นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม และ โฆษกกระทรวงคมนาคม นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายจักรกฤช ตันเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการ “ล้างบางspot check” ปราบเจ้าหน้าที่รัฐเก็บส่วยรถบรรทุก

สำหรับปฏิบัติการดังกล่าว สามารถจับกุมตัวนายนพดล อายุ 57 ปี ตำแหน่งนายช่างเครื่องกลอาวุโส หัวหน้าสถานีตรวจสอบน้ำหนักอุบลราชธานีขาออก และเป็นหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ Spot check นายอเนก อายุ 59 ปี นายช่างเครื่องกลชำนาญงาน หัวหน้าสถานีตรวจสอบน้ำหนักด่านขุนทดขาเข้านครราชสีมา นายธงชัย หรือบอย อายุ 38 ปี หน้าเสื่อ ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา คดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3

เบื้องต้นนายนพดล กับ นายเอนก ถูกดำเนินคดีในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานร่วมละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่วนนายธงชัย ถูกดำเนินคดีข้อหา สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พร้อมกับเชิญตัวนายประทิน อายุ 39 ปี เจ้าของบัญชีธนาคารมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยเช่นเดียวกัน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า การแข่งขันทางธุรกิจทำให้เกิดส่วยสติกเกอร์ขึ้นมา ปัญหานี้เป็นเรื่องใหญ่ หากเจ้าหน้าที่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ก็จะส่งผลกระทบกับประชาชน และสร้างความเสียหายให้ประเทศชาติ สำหรับเงินหมุนเวียนที่พบของกลุ่มผู้ต้องหาประมาณ 200 ล้าน ภายใน 4 ปี หลังจากนี้จะขยายผลต่อไป หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีให้หมด

นอกจากเงินผ่านบัญชียังพบว่า มีเงินสดจำนวนมากซึ่งไม่สามารถระบุจำนวนได้ชัดเจน โดยคาดว่าหลังจากนี้จะมีผู้ต้องหาเพิ่ม และเชื่อว่ามีตัวการใหญ่ในกรมทางหลวงอยู่เบื้องหลัง ยืนยันว่าไม่มีมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน

ด้าน พล.ต.ต.ประสงค์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเงินจำนวน 200 ล้านบาท ที่หมุนเวียนในบัญชีของผู้ต้องหา เป็นเพียงเงินขาเข้าบัญชีที่มาจากผู้ประกอบการรถบรรทุกทางภาคอีสานประมาณ 200 ราย โดยโอนผ่านบัญชีม้าของนายประทิน ก่อนจะแปลงเป็นเงินสดออกจากบัญชี ซึ่งต้องขยายผลต่อว่ามีการส่งต่อไปให้ใครบ้างตอนนี้มีผู้เสียหายเข้าให้ข้อมูลแล้ว 50 ราย แต่ก็ยังมีอีกหลายรายที่ไม่ได้เข้ามา เนื่องจากกังวลว่าจะถูกดำเนินคดี เพราะเจ้าตัวยินยอมจ่ายให้เจ้าหน้าที่เอง

ด้านนายจักรกฤช กล่าวว่า ตนยอมรับว่าจากการตรวจสอบการช่างน้ำหนักรถบรรทุกในระบบของกรมทางหลวง มีความหละหลวมเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่สามารถตอบสอบได้ว่า จะมีมาตรการติดตามรถบรรทุกที่น้ำหนักเกินได้อย่างไร นอกจากนี้ชุดเฉพาะกิจ Spot check บางชุด ก็ไม่ได้มีการรายงานผลการปฏิบัติการอย่างเป็นทางการ

ลักษณะของการปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทำงานกันเอง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทางหลวง มีจำนวนน้อย ในด่านช่าง 1 ด่าน มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางหลวงแค่ 1 คน ที่เหลือเป็นเพียงลูกจ้างที่ปฏิบัติงาน ตามด่านช่างน้ำหนักเท่านั้น

ทั้งนี้มีรายงานว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ตรวจพบบัญชีม้าที่เปิดในชื่อของนายประทิน ใช้สำหรับรับโอนเงินจากผู้ประกอบการนั้น พบว่าบัญชีดังกล่าวเปิดมาตั้งแต่เดือนส.ค.65 จนถึงเดือน มิ.ย.66 ระยะเวลา 10 เดือน มีเงินโอนเข้าบัญชี รวมแล้วกว่า 6,265,631 บาท

ขณะที่การตรวจสอบ เส้นทางการเงินของ นายธงชัย หรือบอย ซึ่งเป็นหน้าเสื่อ พบว่าตั้งแต่ปี58 จนถึงปัจจุบัน มีเงินหมุนเวียนกว่า 126,460,745 บาท ในจำนวนนี้มีการโอนไปยังบัญชีของนายนพดล หน้าหน้าชุด 31 ครั้ง รวมเป็นเงิน 3,161,100 บาท ซึ่งจากแนวทางสืบสวน พบว่าวิธีการผ่องถ่ายเงินส่วย ส่วนใหญ่ จะใช้วิธีถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มแล้วนำไปส่งมอบตามจุดนัดหมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลตรวจสอบในส่วนนี้เพิ่มเติมด้วย

ส่วนบัญชีของนายนพดล ใช้รับโอนเงินจากนายธงชัย พบว่าตั้งแต่ปี62 จนถึงปัจจุบัน มีผู้โอนเงินหรือฝากเงินสดเข้ามา 13,237,672 บาท เมื่อตรวจสอบรายละเอียด พบว่ามีการรับโอนเงินจากบัญชีของนายเอนก เข้ามายังบัญชี ตั้งแต่ปี63-66 รวมเป็นเงิน 5,526,500 บาท ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นเงินส่วยรถบรรทุกเช่นเดียวกัน

จากการตรวจพบความเชื่อมโยงดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายเอนก จนพบหลักฐานสำคัญว่า มีการรับโอนเงินจากผู้ประกอบการรถบรรทุกโดยตรง ในลักษณะรายเดือน ตกเดือนละตั้งแต่ 5,000 -100,000 บาท เฉพาะปี63-66 มีเงินฝากเข้าบัญชี และโอนเงินเข้ามาบัญชีของนายเอนก ประมาณ 11,465,976 บาท จึงเป็นหลักฐานจนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *