งานเข้า สำนักพุทธ สั่งเพิกถอนวีซ่า พระลิน พระบัวลัย เตรียมประสาน ตม.
งานเข้า สำนักพุทธ สั่งเพิกถอนวีซ่า พระลิน – พระบัวลัย เตรียมประสาน ตม. พร้อมกำชับเจ้าคณะผู้ปกครองให้ระมัดระวังการรับพระภิกษุทั้ง 2 รูป เข้าพำนักในพื้นที่
จากกรณี พระลิน สุจิตโต พระสายมู มีเรื่องราวของการประพฤติตนไปในทางไสยศาสตร์ การลงเขียนเลขยันต์ตามตัวและฝ่ามือ และอีกหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องทุบถ้ำน้ำตกพญานาคเจอของเสื้อผ้าของ รพ.ชุดชั้นใน กางเกงใน โดยเจ้าตัวบอกนั่งสมาธิเห็นเจ้าที่บอกให้ทุบทิ้งเพราะเป็นของต่ำ แม้จะสร้างด้วยงบประมาณเกือบ 3 ล้านบาท จนทำให้ประชาชนหลงผิดในหลักของพระพุทธศาสนา
ต่อมามีหนังสือด่วนเป็นคำสั่งคณะจังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุต) ลงวันที่ 18 กันยายน 2567 เรื่อง ให้พระลิน สุจิตโต และพระบัวลัย เอกคคจิตโต ซึ่งเป็นพระน้องชายพ้นจากเขตการปกครองคณะสงฆ์จังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุด)
จากนั้น พระลิน ออกมาโต้เจ้าคณะจังหวัด บอกว่า ประเด็นดราม่ากรณี เจ้าคณะจังหวัดมีหนังสือชี้ขับออกจากวัดและในเขตการปกครอง เรื่องนี้ได้นำเรียนเจ้าคณะจังหวัดฯแล้ว รับไม่ได้กับหนังสือจากเจ้าคณะจังหวัดฯ เพราะมีญาติโยมศรัทธา และในวันที่ 27 ต.ค.67 ก็จะเดินทางมารับกฐินของญาติโยมที่วัดป่าดอนบ้านเทือน จ.อุดรธานี แน่นอน ไม่หวั่นไหวอะไร เพราะไม่ได้ถูกชาวบ้านขับไล่ แต่หากธรรมยุตไม่ให้อยู่ก็จะย้ายไปมหานิกาย
ล่าสุด วันที่ 22 ต.ค. 2567 สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ออกมาชี้แจงกรณีพระ LIN SOUKHAMPHONG (พระลิน สุคำพอง) และ พระ BOUALAI KHAMPHONG (พระบัวลัย คำพอง) ดังนี้
โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ขอเรียนว่า ตามระเบียบสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่าด้วยการออกหนังสือรับรองให้ต่ออายุวีซ่าแก่ชาวต่างประเทศ ผู้เข้ามาศึกษาหรือปฏิบัติธรรมทางพระพุทธศาสนาในประเทศไทย พ.ศ. 2546 ข้อ 13 ชาวต่างประเทศที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ออกหนังสือรับรองให้ และได้รับการต่ออายุวีซ่าจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
แล้วปรากฏในภายหลังว่า บุคคลนั้นมีคุณสมบัติบกพร่องอย่างใดอย่างหนึ่งก็ดี มีพฤติกรรมอันไม่สมควรที่จะให้อยู่ในประเทศไทยต่อไป จนครบกำหนดเวลาที่ต่อวีซ่าให้ก็ดี สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมีอำนาจที่จะเพิกถอนหนังสือรับรองได้ทันที
ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ดำเนิน ดังนี้ 1.ประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขอเพิกถอนหนังสือรับรองของพระ LIN SOUKHAMPHONG
2.แจ้งพฤติการณ์ของพระภิกษุ ทั้ง 2 รูป ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และเจ้าคณะผู้ปกครองให้ระมัดระวังการรับพระภิกษุทั้ง 2 รูป ดังกล่าวเข้าพำนัก